นางสาวลดา ภู่มาศ ผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการได้เข้าร่วมการประชุมคณบดี และผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศอาเซียน + ๓ ครั้งที่ ๑๔ (the 14^th Annual Meeting of Deans and Directors of Diplomatic Training Institutions of ASEAN + 3) ระหว่างวันที่ ๒๓ - ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงฮานอย โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากสถาบันฝึกอบรมและพัฒนานักการทูตจากกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓  เข้าร่วม ประมาณ ๕๐ คน การประชุมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการฝึกอบรมทางการทูต    ของกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓ และแสวงหากลไก / แนวทางในการผลักดันผลการประชุมให้เป็นรูปธรรมและสนับสนุนความร่วมมือในการพัฒนานักการทูตของกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓

          ที่ประชุมฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ และข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวางใน ๕ หัวข้อย่อย ได้แก่   การสร้างฐานข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรทางการทูต แนวคิดสำหรับ    การพัฒนาการฝึกอบรมร่วมกัน การนำเทคโนโลยีและวิธีการแบบใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับการฝึกอบรมบุคลากรทางการทูต แนวทางความร่วมมือในการพัฒนาผู้ทำหน้าที่ฝึกอบรม และกลไกที่สามารถขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการฝึกอบรมบุคลากรทางการทูตให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม

          ในห้วงการประชุมฯ ผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศฯ ได้รับเชิญให้เป็นผู้กล่าวนำในเรื่องการนำเทคโนโลยีและวิธีการในรูปแบบใหม่มาประยุกต์ใช้กับการฝึกอบรมบุคลากรทางการทูตของไทยและต่างประเทศที่มาฝึกอบรมที่สถาบันการต่างประเทศฯ โดยเน้นความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (continuous) แบบองค์รวม (holistic) และตลอดชีวิต (life-long learning) ตลอดจนการผสมผสานรูปแบบการฝึกอบรมต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้หลักสูตรมีคุณภาพและผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังได้แนะนำสถาบันการต่างประเทศฯ โดยเฉพาะหลักสูตร โครงการ และกิจกรรมที่ได้ดําเนินการในช่วงปีงบประมาณ ๒๕๖๒ (ตุลาคม ๒๕๖๑ - กันยายน ๒๕๖๒) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมการประชุมฯ อย่างยิ่ง โดยเฉพาะโครงการอบรมการเขียนสุนทรพจน์จากประสบการณ์ของผู้บริหารและอดีตเอกอัครราชทูต และโครงการพัฒนาบุคลากร ทางการทูตผ่านการรวบรวมและจัดการองค์ความรู้ด้านการทูตและการต่างประเทศ (Knowledge Management: from implicit to explicit knowledge) ซึ่งนักการทูตสามารถเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ทั้งเทคนิคการเจรจา การสร้างเครือข่าย การเข้าสังคม และการบริหารจัดการในยามวิกฤต  

          นอกจากนี้ มีการจัดอบรมหลักสูตร Effective Crisis Management คู่ขนานไปพร้อมกับการประชุมฯ  ซึ่งเป็นผลจากการประชุมฯ ครั้งที่ ๑๓ เมื่อปี ๒๕๖๑ ที่กรุงปักกิ่ง โดยมีนักการทูตรุ่นใหม่จากกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓ รวมทั้งนักการทูตรุ่นใหม่ของไทยเข้าร่วม จำนวน ๒๘ คน และมีผู้เชี่ยวชาญจาก Centre for Political and Diplomatic Studies (CPDS) เป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรม

          การเข้าร่วมประชุมคณบดีและผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศอาเซียน + ๓ ของสถาบันการต่างประเทศฯ สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรทางการทูตและการต่างประเทศ อันสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ  ๒๐ ปี และยุทธศาสตร์ของกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ นอกจากนี้ ยังเป็นการขยายเครือข่ายระหว่างสถาบันฝึกอบรมและพัฒนานักการทูตจากกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓ ตลอดจนเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ของการฝึกอบรมของแต่ละสถาบันฯ รวมทั้งการแสวงหาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาบุคลากรทางการทูตระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน + ๓ ซึ่งสถาบันการต่างประเทศฯ เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ ครั้งที่ ๕ เมื่อปี ๒๕๕๑ ทั้งนี้ การประชุมฯ ครั้งที่ ๑๕ ปี ๒๕๖๓ ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ