สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการ มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาครัฐที่เตรียมจะไปประจำการในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเสริมองค์ความรู้ที่จำเป็น การฝึกทักษะเชิงปฏิบัติ และการปลูกฝังทัศนคติที่เหมาะสม โดยยึดประชาชนและประเทศชาติเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ข้าราชการสามารถปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้บริการคนไทยในต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ทันสมัย และเป็นมาตรฐานเดียวกัน

               เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายธนพ ปัญญาพัฒนากุล ผู้ช่วยปลัดกระทรวง ได้เป็นประธานเปิดหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการไปประจำการในต่างประเทศ ระดับเลขานุการและที่ปรึกษา พร้อมคู่สมรส ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 โดยได้แสดงความยินดีกับข้าราชการจากกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีกำหนดไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 69 คน ทั้งเน้นย้ำบทบาทที่สำคัญของการเป็นผู้แทนของไทยในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับนานาประเทศ การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทย รวมถึงการบูรณาการและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานไทยในต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจ “ทีมประเทศไทย” อย่างมีเอกภาพและประสิทธิภาพ

               หลักสูตรดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 ตุลาคม – 14 พฤศจิกายน 2568 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมด้านการทูตและการต่างประเทศ การบริหารจัดการ กฎระเบียบ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้กรอบ S-M-A-R-T ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่

1. S (Diplomatic Skill) คือ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานด้านการทูตและการต่างประเทศ

2. M (Management Skills and related knowledge) คือ ความรู้และทักษะด้านการบริหาร

3. A (Professional Roles and Attitude) คือ บทบาทและทัศนคติที่เหมาะสมกับตำแหน่ง

4. R (Government Practices and Regulations) คือ แนวปฏิบัติทางราชการภายใต้กรอบระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ

5. T (Technical knowledge in Diplomacy and International Affairs) คือ ความรู้ ด้านการทูตและการต่างประเทศ/ความรู้รอบตัว

               ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้ข้าราชการที่จะไปประจำการและปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และหน่วยงานไทยในต่างประเทศสามารถปฏิบัติภารกิจในการประสานความสัมพันธ์และขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทูต เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความมั่นคง และการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในต่างประเทศ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและต่างประเทศเพื่อร่วมกันรับมือกับความท้าทายของโลกยุคปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน