สถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการได้จัดการฝึกอบรมข้าราชการที่เตรียมไปประจำการในต่างประเทศ ระดับอัครราชทูตที่ปรึกษาและรองกงสุลใหญ่ พร้อมคู่สมรส ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2568 ในโอกาสนี้ นางต้องฤดี มากบุญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แบ่งปันประสบการณ์ในเรื่อง “การบริหารสำนักงานต่างประเทศ” เพื่อเสริมสร้างมุมมองใหม่ ตลอดจนแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม และร่วมกันระดมความคิดเห็นจากผู้เข้ารับการอบรมเพื่อใช้ในการพัฒนาการทำงานของสำนักงานในต่างประเทศ

               โดยในการอบรมดังกล่าว นายชูชาติ จิโรจน์กุล นักการทูตชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การอบรมที่มุ่งเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ และได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศมาให้ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เน้นการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการปฏิบัติงานและการปลูกฝังทัศนคติที่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งทางการทูต เพื่อให้สามารถสนับสนุนภารกิจของกระทรวงการต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

               หลักสูตรดังกล่าวมีเนื้อหาครอบคลุมด้านการทูตและการต่างประเทศ การบริหารจัดการ กฎระเบียบ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ภายใต้กรอบ S-M-A-R-T ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 หมวด ได้แก่
1. S (Diplomatic Skill) คือ ทักษะที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานด้านการทูตและการต่างประเทศ
2. M (Management Skills and related knowledge) คือ ความรู้และทักษะด้านการบริหาร
3. A (Professional Roles and Attitude) คือ บทบาทและทัศนคติที่เหมาะสมกับตำแหน่ง
4. R (Government Practices and Regulations) คือ แนวปฏิบัติทางราชการภายใต้กรอบระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ
5. T (Technical knowledge in Diplomacy and International Affairs) คือ ความรู้ด้านการทูตและการต่างประเทศ/ ความรู้รอบตัว

               การอบรมมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาศักยภาพข้าราชการ และการให้บริการประชาชนไทยในต่างประเทศ โดยการเตรียมความพร้อมด้านการทูตที่จะช่วยให้ข้าราชการสามารถปฏิบัติงานในสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้าราชการที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการดูแลคนไทยในต่างประเทศ การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของไทยกับต่างประเทศในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงสามารถรับมือกับความท้าทายของโลกยุคปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม